Wednesday 1 August 2007

Bangkok Enter The Lotus


ภาพนิ้วมือออกกำลังกาย...


รูปถ่ายสถานที่เที่ยวทั่วเมืองพัทยานับสิบใบ...


ข้อความ Are you Ready?




...เสียงเพลงวายเอ็ม สนุกๆ พร้อมกับข้อความสรุป Get Hand on’ s experience the variety of Pattaya คือรูปแบบการถ่ายทอดหนังสั้น 1 นาที ที่ตกผลึกจากการตีโจทย์ You can do good thing at Pattaya ของ 2 ตัวแทน ยังครีเอทีฟ จากค่ายครีเอทีฟ จู๊ซ จีวัน ประเทศไทย “เศรษฐา เขียวงามดี” และ “ ณนัฎ เทพรักษ์” ส่งเข้าประกวด เพื่อพิชิตรางวัล Young Lotus ของเวที AdFest ปี 2550



ผลงานนี้แม้จะไม่ได้รับรางวัล แต่สิ่งที่ทั้งสองได้เรียนรู้ คือประสบการณ์ทำงานแบบมืออาชีพ โดยเฉพาะงานที่เป็นโจทย์ใหม่ๆ มีข้อจำกัดรอบด้าน ที่สำคัญ มีเวลาคิดเพียง 24 ชั่วโมง และทุกขั้นตอนทำงานถูกถ่ายทอดเป็นเรียลลิตี้โชว์ ครั้งนี้ยังจัดเป็นครั้งที่ 2 สำหรับการทำงานร่วมกับระหว่าง Copywriter หนุ่มเดี่ยว-เศรษฐา และ Senior Art Director สาวเอิร์น- ณนัฎ เทพรักษ์ ในเวทีประกวดผลงานโฆษณาที่ทั้งสองยอมรับว่า โจทย์ครั้งนี้ “หิน” ทีเดียว ดังนั้นพวกเขาเลือกทำมันสั้นและง่ายต่อการเข้าใจ “เลือกนิ้ว เพราะคนต้องใช้ในการกดชัตเตอร์ เพื่อถ่ายรูปตามสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองพัทยาที่มีเยอะแยะไปหมด มันเป็นไอเดียแรกที่คิดกันไว้ตอนเช้า แต่ตอนบ่ายได้ไอเดียใหม่เป็น 15 วินาที 3 ตอน และออกไปถ่ายจนตกเย็น แต่ปรากฏว่า มันไม่เวิร์ค เลยต้องกลับมาเอาไอเดียเดิม มีอะไรบ้าง และพยาม Simplified ให้มันน้อยและง่าย” “ในที่สุด ลงมือทำโปรดักชั่นถ่ายทำกันในห้องนอน เพราะข้างนอกแสงหมด ถ่ายทำกันตั้งแต่หัวค่ำจนถึงตี 2 จากนั้นลงมือตัดต่อกันถึงตี 3” ผลงานที่ออกมาจึงเป็นภาพยนตร์โฆษณาสั้นๆ ที่สื่อความหมายเรียบง่าย และโดนใจใครหลายคน (ยกเว้นกรรมการ ซึ่งเทคะแนนให้กับผลงานของญี่ปุ่น) “ภายใต้ข้อจำกัดทั้งเวลาและโจทย์ เราจะต้องมีความพร้อมในแง่ความคิด และความแม่นยำของการตีโจทย์ โดยต้องมองทุกอย่างให้ขาดในเวลาที่จำกัด” เดี่ยวบอกกับ POSITIONING ถึงบทเรียนจากประสบการณ์ทำงานครั้งนี้ ขณะที่เอิร์นเรียนรู้ว่า “และเราต้องวางแผนในการคิดว่าจะต้องใช้เวลาคิดจนถึงกี่โมง เพราะต้องใช้เวลาในการถ่ายรูป ตัดต่อ และอื่นๆ ไอเดียเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญ แต่ถ้าไม่สามารถ Excuse ไอเดียนั้นออกมาเป็นภาพได้ มันก็ไม่ไปถึงจุดที่เราต้องการได้” เธอเล่าว่า สิ่งที่รู้สึกงงระคนประหลาดใจ คือ เจ้าหน้าที่แจ้งก่อนเดินทางไปพัทยา 2-3 วันให้เตรียมตัวเอาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์พีซีไป เพราะปกติใช้ระบบแมคอินทอช พอไปถึงงานจึงได้รู้ว่าโจทย์ครั้งนี้ไม่ใช่งานพริ้นต์ ซึ่งเป็นประเภทที่เคยทำและชนะเลิศในเวทีระดับประเทศแน่นอน “ในที่สุด หลังจากรับโจทย์ในห้องเรียน (มีการอบรมสอนวิชาการโฆษณา) ราวบ่ายโมง และมีกำหนดส่งงาน 8โมงเช้าของวันรุ่งขึ้น โดยโจทย์ คือ ทำหนังโฆษณา ที่ต้องถ่ายทำเอง โดยใช้มือถือโนเกีย และต้องมาตัดต่อเองทั้งหมด เรารู้สึกกลัวๆ งงๆ เพราะไม่แน่ใจว่าต้องทำออกมายังไง อีกอย่างไม่เคยตัดต่อหนังมาก่อน เพราะปกติเวลาคิดงานทีวี งานโปรดักชั่นผลิตจะมีอีกทีมรับไปทำต่อ Support ดังนั้น มันเป็นเรื่องใหม่ และเราต้องเรียนรู้กันตรงนั้นเลย อีกอย่าง เจ้าหน้าที่ก็ยึดมือถือส่วนตัวแต่ละคนไปเลย เพื่อไม่ให้ติดต่อกับบุคคลภายนอก” เอิร์นบอก ขณะที่เดี่ยวเสริมว่า “เราไม่ได้เก่งอะไรกันมาก และเคยคิดหนังกันมาบ้างแล้ว แต่เมื่อต้องมาทำโปรดักชั่นเองก็รู้สึกไม่มั่นใจว่าทำได้หรือเปล่า” ท่ามกลางแรงกดดันทั้งคนและโจทย์ ทั้งคู่ก็ได้พยายามตั้งสติ เรียนรู้ ช่วยกันคิด ช่วยกันทำออกมา ในที่สุดผลงานคุณสามารถทำสิ่งดีๆ ได้ที่พัทยา โดยสามารถดูผลงานทั้งคู่ได้ที่เว็บลิงค์ เมื่อถามถึงผลงานยังครีเอทีฟประเทศใดที่ประทับใจ เดี่ยวและเอิร์นบอกว่า ญี่ปุ่น เพราะผลงานถ่ายทอดออกมาไร้ที่ติ ที่สำคัญเขาแฮนด์เดิลงานได้ดี มีการวางแผนการทำงาน แตกย่อยแต่ละช็อต กำหนดรายละเอียดทำงานชัดเจน ถ่ายช็อตนี้ถ่ายกี่โมง เสร็จกี่โมงและที่สำคัญ Storyboard กับงานที่ทำออกมาตรงกัน ขณะเดียวกันก็มีลอจิกในการคิดดีมาก ผสมกับโปรดักชั่นและการตัดต่อ จังหวะถึงมาก งานนี้ทั้งคู่ต่างเห็นตรงกันว่า “ประสบการณ์ครั้งนี้ ได้สอนให้เรียนรู้การเป็นคนทำงานโฆษณาหลายด้าน ทั้งผู้ผลิตงาน และลูกค้า ที่สำคัญ คือ การปรับตัวในการทำงานภายใต้สถานการณ์กดดัน”

No comments: